การนอก
ใจ (Cheating/Infidelity) เป็นประสบการณ์ที่เจ็บปวดรวดร้าว
และบ่อนทำลายตัวตนของเราอย่างย่อยยับ ไม่ว่าคุณจะเป็นฝ่ายนอกใจคู่
หรือถูกคู่นอกใจคุณก็ตาม เมื่อคุณนอกใจ
ควรสารภาพหรือไม่หรือเก็บความลับนี้ไว้ให้ตายไปกับตัว
ปัญหานี้เป็นเรื่องที่เถียงกันโลกแตกก็ยังหาจุดสิ้นสุดมิได้
เพราะคนที่รู้สึกผิดมากๆ ก็มักตอบว่า
“ต้องบอกสิ
เพราะเราทำผิดไปแล้วยิ่งไม่ควรปิดบังความจริงจากคู่ของเรา
ถ้าเขามารู้ทีหลังเรื่องจะยิ่งไปกันใหญ่เลย”
แต่นักจิตวิทยาอเมริกันคิดตรงข้ามค่ะ
ส่วนใหญ่ผู้เชี่ยวชาญมักแนะนำว่า.หากเรื่องมันผ่านไปแล้ว การนอกใจจบลงแล้ว
และชาตินี้คู่ของเราจะไม่มีวันรู้เรื่องนี้ ก็ขอให้ปิดปากเงียบเป็นดีที่สุด
อย่าได้ปริปากเอ่ยถึงเป็นอันขาด เพราะ การโดนนอกใจเป็นการทำลาย
TRUST-ความไว้ใจ ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญที่สุดในการมีชีวิตคู่
ใช้เวลาอีกหลายปีเหลือเกินกว่าคู่นั้นจะสร้างความไว้ใจให้กลับขึ้นมาใหม่ได้
อีกครั้ง
ฉะนั้น เวลาที่คุณสารภาพความผิดกับแฟนคุณ
อย่าคาดหวังว่าการสารภาพให้เธอรู้ก่อนเป็นเรื่องดี
มันจะต้องช่วยล้างมลทินของคุณได้อย่างหมดจดรวดเร็วสิ คุณคิดผิดค่ะ
มันทำลายทุกสิ่งทุกอย่าง
และต้องใช้เวลาอีกยาวนานกว่าจะเริ่มสร้างใหม่ได้อีกครั้ง
ดังนั้นคุณต้องอดทนอย่างหนักและยาวนาน
กว่าที่ความสัมพันธ์จะกลับมาใกล้เคียงจุดเดิม การโดนนอกใจ
ทำลายความรู้สึกว่าตัวเองมีค่าของคู่ของเรา (self-esteem)
ทำลายความมั่นใจในตัวเองของเขาจนหมดสิ้น (self-worth) ทำลายอัตตาย่อยยับ
นักจิตวิทยาแนะนำว่า ถ้าคู่ของคุณเป็นคนจิตใจอ่อนแออยู่แล้ว กรุณาหุบปาก
อย่าบอกเด็ดขาด เพราะการบอกให้เขารู้มันเหมือนฆ่าเขาให้ตายทั้งเป็น
การสารภาพมักเกิดจากการทนรู้สึกผิดไม่ไหว
อยากระบายออกไปให้ตัวเองสบายใจขึ้น
ซึ่งเป็นเหตุผลที่เลวร้ายที่สุดของการสารภาพ
เพราะมันไม่ได้ทำให้คุณเป็นคนดีขึ้น มันมาจากความเห็นแก่ตัว (อีกแล้ว)
ต่างหาก “The worst possible reason to confess is to make you feel
better” แค่เพียงเพราะเราได้ระบายออกไปจะได้รู้สึกโล่งขึ้น
แต่เราลืมไปว่ามันกำลังขุดหลุมความเจ็บปวดลงในจิตใจของคู่รักอย่างแสนสาหัส
“เมื่อคุณทำผิดไปแล้ว ก็จงแก้ปัญหาผลที่ตามมาด้วยตัวเอง
อย่าไปทำร้ายคู่ของคุณอีกเลย” โดยส่วนตัวของฉันที่เคยโดนแฟนนอกใจมาเอง
ฉันเลือกฟังเขาสารภาพ ดีกว่าตายไปทั้งๆ ที่คิดผิดๆ ว่า
“เขาไม่เคยปันใจจากฉันเลย”
สำหรับฉันการหลงผิดแย่เสียยิ่งกว่ารู้ว่าโดนนอกใจอีกค่ะ
ฉันเลยไม่เห็นด้วยนักกับนักจิตวิทยาชีวิตคู่ การที่เขาสารภาพ
อย่างน้อยมันคือโอกาสช่วยให้ฉันได้รู้ความจริงของความสัมพันธ์ว่าเราสองคนทำ
ผิดพลาดตรงไหน มันช่วยเปิดตาให้สว่างว่าปัญหาของเราคืออะไร
และฉันมีส่วนร่วมในการแก้ปัญหานี้ได้อย่างไร อย่างน้อยหลังผ่านเหตุการณ์นี้
ความสัมพันธ์ของเราสองคนอาจเติบโตก้าวหน้าขึ้นอีกมาก
จากการเห็นตัวตนแท้จริงของกันและกัน
หรือถ้าความสัมพันธ์ของเราต้องแตกสลายไป
อย่างน้อยความสัมพันธ์ที่ฉันมีต่อตัวเองจะพัฒนาขึ้นได้จากบทเรียนครั้งนี้
แน่นอน แต่ถ้าแฟนทำให้ฉันเชื่อว่าเขารักฉันคนเดียวแล้วฉันมาจับได้ทีหลัง
ฮึ่ม...พ่อตายหยังเขียด หลังจากรู้ว่าแฟนนอกใจแล้ว เราควรให้อภัยหรือไม่
และเราจะรู้ได้อย่างไรว่าเขาเลิกขาดแล้วจริงๆ
1.
ต้องใช้เวลาตัดสินใจก่อนว่าคุณจะอยู่หรือคุณจะไป dealing with a cheating
spouse first has to come after the decision as to whether or not you
want to stay together as a couple. Fraser Wheaton : How To Survive A
Cheating Spouse คุณ Fraser Wheaton เถ้าแก่หนุ่มวัย 36 ปี
แต่มีงานอดิเรกเขียนบทความให้เว็บไซต์
EZINE.com
เขาเขียนถึงการรอดชีวิตหลังโดนนอกใจไว้ดีมาก ใน How To Survive A Cheating
Spouse ว่าสิ่งที่คุณต้องทำเป็นอันดับแรก
ไม่ใช่คิดว่าจะทำอย่างไรกับแฟนนอกใจดี
แต่ต้องตัดสินใจก่อนว่าคุณยังอยากคบเขาต่ออีกหรือไม่ในฐานะคู่
“สิ่งที่คุณต้องทำเป็นอย่างแรก
คือสำรวจใจตัวเองอย่างจริงจังว่า...คุณยังอยากอยู่กับคนๆ
นี้ต่อไปอีกหรือไม่
ถ้าคุณตัดสินใจว่าอยากคบเขาต่อ...คุณต้องรู้ก่อนเลยว่ามันจะเป็นช่วงเวลาที่
ยากและยาวนานของคุณทั้งคู่ การสร้างความไว้ใจให้กลับมาใหม่
เป็นกระบวนการที่ช้าและนานมากๆ แต่บางคู่ก็ทำได้มาแล้วครับ”
ฉันตะลุยศึกษาเรื่องการนอกใจและผลที่ตามมาหลังจากนั้นมาพอสมควร
ผู้เชี่ยวชาญทุกคนที่ทำงานบำบัดชีวิตคู่ตอบตรงกันเลยค่ะว่า...ความไว้ใจเป็น
รากฐานที่ยิ่งใหญ่และสำคัญที่สุดของ relationships
ฉะนั้นเมื่อความไว้ใจถูกทำลายลงแล้ว
มันใช้เวลานานมากและยากมากกว่าจะสร้างขึ้นมาใหม่ได้
ฉันเลยไม่ค่อยเข้าใจคุณผู้ชายทั้งหลายที่นอกใจมักสารภาพผิดกับแฟน
ขอให้เธอยกโทษให้ ให้สัญญาว่าจะเลิกกับฝ่ายโน้น
แก้ไขปรับปรุงตัวเองให้ดีขึ้น และจะไม่ทำแบบเดิมอีกแล้ว
แล้วคาดหวังว่าแฟนหรือภรรยาจะสามารถกลับมารักเขาเหมือนเดิม
ไว้ใจเขาแบบเดิมได้ ‘รวดเร็วอย่างที่เขาคาดหวัง’
ระยะเวลากลับมาเป็นเหมือนเดิมขึ้นอยู่กับคนแต่ละคน
และคู่แต่ละคู่ก็ใช้เวลาไม่เท่ากันจริงๆ ค่ะ ฉันว่าต้องอดทนค่อยๆ
เยียวยาไม่ต่ำกว่า 1 ปีทีเดียว
การเยียวยาความเชื่อมั่นที่แหลกสลายเป็นกระบวนการที่ slow and long process
เหมือนที่เถ้าแก่เฟรเซอร์และผู้เชี่ยวชาญทุกคนบอกจริงๆ
ทว่า...การที่คนโดนนอกใจเลือกอยู่กับแฟนคนเดิม
แต่ขุดเรื่องเดิมขึ้นมาพูดทุกครั้งที่มีโอกาสหลังจาก 2 ปีผ่านไป
อันนั้นฉันว่า...ยังเจ็บจำฝังใจไม่เลิกราแน่แล้ว ถ้าเป็นแบบนั้น
เลิกกันดีกว่าทนฝืนอยู่ต่อไปค่ะ เพราะในความเป็นจริงแล้ว ใจคุณยังผูกใจเจ็บ
ยังโกรธเคือง ยังไม่ได้ให้อภัยจริงๆ ถึงได้เจ็บจำนานขนาดนั้น Doug กับ
Chris Young ผู้เขียน How To Survive Infidelity: Tips and Advice From a
Couple Who’ve Actually Been There and Done It
ให้ข้อเตือนใจไว้ดีมากว่าคุณต้องเลือกตัดสินใจด้วยตัวเองและเชื่อมั่นตาม
นั้น อย่าไขว้เขวไปกับคำแนะนำหรือความเห็นของคนอื่น
“โปรดจำไว้เสมอว่า...คุณเป็นคนที่ต้องอยู่กับการตัดสินใจของคุณเอง
ไม่ใช่ใครอื่น”
2. ให้แน่ใจว่าความสัมพันธ์ระหว่างเขากับคนๆ นั้นจบลงแล้วจริงๆ How To Survive
Infidelity.com
ย้ำว่าสำคัญมากที่การติดต่อกับมือที่ 3 ต้องยุติลงได้แล้ว
เพราะมันมีผลโดยตรงกับอนาคตของคุณกับเขา
ถ้าอยากให้กลับมาอยู่กันได้ไปกันรอดจริงๆ เขาก็ต้องตัดขาดกับมือที่ 3
เลิกติดต่อเกี่ยวข้องใดๆ อีก ไม่ใช่แค่เลิกแบบไม่มีเซ็กซ์เท่านั้น
แต่ยังแอบห่วงใย โทรไปถามสารทุกข์สุกดิบ
หรือว่าฝ่ายนั้นยังส่งอีเมลอาลัยรัก คิดถึงนะ...มาหาแฟนเรา
ไม่ได้อีกแล้วเด็ดขาด คู่ของเพื่อนฉัน ฝ่ายชายยังแอบติดต่อชู้รักอยู่
โดยให้เหตุผลว่า “ผมเป็นฝ่ายผิด
จะให้ทิ้งเขามาโดยไม่ดูดำดูดีเลยได้อย่างไร”
อย่าค่ะ-คุณอย่าซื้อมุกบัฟฟาโล่แบบ...โถพ่อพระเอก (จอมปลอม) แบบนี้เด็ดขาด
ถ้าเขาเลือกจะรักษาชีวิตรักหรือชีวิตสมรสกับคุณไว้
เขาต้องแสดงออกชัดเจนว่าเขาเลิกกับคนนั้นได้แล้วจริงๆ
ไม่มีคำว่าพื้นที่สีเทาโดยเด็ดขาด ถ้าเขาทำตัวให้คุณเห็นพื้นที่สีเทา
คือไม่ชัดเจนเด็ดขาดซะที ฟันธงเลยว่าเขาจะกลับไปหาเธออีกแน่นอน
จะเพราะเขาใจอ่อนอีก หรือเพราะเขาหลอกคุณว่าเลิกแล้วแต่จริงๆ
แล้วไม่ได้เลิกกันจริงก็เป็นได้
3. เขาต้องแสดงออกว่ายอมรับผิดจริงๆ
และมีการลงมือทำเพื่อแก้ไขความผิดอย่างชัดเจน ผู้เชี่ยวชาญด้านปัญหานอกใจ
ต่างฟันธงหนักแน่นว่า
สัญญาณที่บอกว่าคนของเราพร้อมจะเยียวยาความสัมพันธ์จริงๆ
คือต้องชัดเจนทั้งการแสดงออกและพฤติกรรม
ว่าเขาพร้อมรับผิดและพร้อมจะแก้ไขตนเองเพื่อให้คุณกลับมารักเขาไว้ใจเขาได้
อีกครั้ง การยินยอมเปิดเผยเช่นนี้ ผู้เชี่ยวชาญบอกว่าจำเป็นมาก
เพราะเป็นการช่วยให้คนที่โดนนอกใจรู้สึกมั่นใจขึ้น ถ้าเขาบอกคุณว่า
“ก็ขอโทษแล้วไงจะให้ทำอะไรอีก!” แสดงว่าเขาสำนึกผิดแค่ปาก ขอโทษแค่ขอไปที
ในใจส่วนลึกไม่ได้รู้สึกอยากจะแก้ไขจริงๆ การแก้ไขที่เห็นได้ชัดเจนคือ -
เขาพร้อมจะบอกคุณตลอดทุกครั้งว่าเขาไปไหน อยู่กับใคร ทำอะไรอยู่
ไม่ใช่บอกว่า “เรากลับมาดีกันนะ” แต่ยังทำตัวลึกลับ หายหัวแว่บอยู่บ่อยๆ
หรือแอบงุบงิบโทรหาใคร...เหมือนเดิม - เขาพร้อมจะให้คุณตรวจสอบจริงๆ
ไม่ใช่แค่แสดงว่าพร้อมให้ตรวจ แต่เอาเข้าจริงกลับทำโมโหเฉไฉบ่ายเบี่ยง -
เขาให้เวลาคุณเต็มที่จริงๆ เพื่อสร้างสะพานความสัมพันธ์ขึ้นใหม่
ไม่ใช่ปากขอโทษ บอกว่าจะชดเชยให้คุณ แล้วก็ติดงานยุ่งมาก
จนไม่มีเวลาคุณภาพกับคุณมากนัก
ถ้าเขายังไม่ทุ่มเทให้กับการแก้ไขเยียวยาความสัมพันธ์
คุณจงตระหนักรู้ไว้เลยว่า...เป็นสัญญาณเตือนว่า
จิตใจของเขาไม่พร้อมทุ่มเทให้ความรักของคุณสองคนไปกันรอด
เขาแค่รับปากเอาตัวรอดไปอย่างนั้น!
4.
การเยียวยาแก้ไขปัญหาให้ดีขึ้น ต้องร่วมมือกันทั้ง 2 ฝ่าย คือทั้งเขาและคุณ
Making it work takes a joint effort.
คำคมจากสมาชิกเว็บบอร์ดเยียวยาการนอกใจ username:Forgive but not forget
เป็นประโยคที่สั้นแต่จริงอย่างที่สุด
เพราะจากคู่รักหลายรายที่ฉันร่วมรับรู้มา ความพยายามจากฝ่ายเดียว
ไม่มีทางช่วยให้คู่ไปกันได้รอดหลังรู้ว่ามีการนอกใจ
การร่วมมือทั้งสองทางมาจากทั้งคุณและเขาค่ะ ไม่ใช่ของใครคนใดคนหนึ่ง
การพยายามอยู่ข้างเดียว ได้แก่ - คุณพยายามแก้ไขความสัมพันธ์ทุกทางแล้ว
ทั้งปรับรูปโฉมให้ปิ๊งขึ้น ทั้งพยายามเข้าถึงเขา
แต่เขาไม่รับผิดชอบการกระทำของตัวเองเลย ยังทำตัวเหมือนเดิมทุกอย่าง
หรือดีแค่ช่วงแรกๆ แต่แล้วก็กลับไปลงลูปเดิม
หรือคุณพร้อมให้อภัยให้เขากลับตัว แต่เขาไม่เคยแสดงให้เห็นการกระทำใดๆ
ที่ชัดเจนจากเขาเลย
การที่เขาทำตัวแบบนี้มักมาจากการที่เขาไม่ได้เป็นคนเลือกอยู่ด้วยกันต่อไป
แต่มาจากคุณเองที่ไม่ยอมเลิกจากเขาจนแล้วจนรอด เขาเลยไม่รู้จะแคร์คุณไปทำไม
หรือเขาไม่เลิกกับคุณก็เพราะรู้สึกผิด (Guilt)
และกลัวเป็นคนไม่ดีในสายตาคนอื่น
ไม่ได้เกิดจากการที่เขารักและไม่อยากเสียคุณไปจริงๆ -
เขาพยายามแก้ไขความผิด พยายามทำดีชดเชยให้คุณทุกทางแล้ว
แต่คุณไม่เคยให้อภัยเขา ไม่เคยยอมรับความพยายามของเขา
ยังคงจุกจิกจู้จี้กับเขา ยังคงระบายอารมณ์ใส่เขา
ยังคงกล่าวตำหนิเขาทุกครั้งที่มีโอกาส ทั้งๆ
ที่คุณเองเป็นคนเลือกแล้วว่าจะคบกันต่อไป
คุณก็ต้องเป็นคนใจกว้างพอที่จะให้โอกาสกันและกันได้แก้ไขสิ่งผิด
เพื่ออนาคตที่ดีกว่าสำหรับคุณทั้งสองคนค่ะ การให้อภัยแต่ปาก
ไม่ต่างจากการที่คนนอกใจขอโทษแต่ปาก
แต่ไม่แสดงความจริงใจที่จะแก้ไขเลยเช่นกัน
ฉันรู้ค่ะว่ามันยากมากที่จะให้อภัยเขาได้ แต่ถ้าคุณเลือกแล้วว่าจะอยู่ต่อ
คุณก็ต้องรับผิดชอบและเคารพการตัดสินใจของตัวเองด้วย ถ้ารับไม่ได้จริงๆ
ก็เลิกเถอะ อย่าหลอกตัวเอง
5. ดูแลตัวเอง รักตัวเองให้มาก
แวดล้อมด้วยผู้คนที่ให้กำลังใจคุณ “There’s life after cheating”
ทุกกูรูความสัมพันธ์สนับสนุนทัศนคตินี้เป็นเสียงเดียวกัน
แม้ว่าการโดนนอกใจจะเป็นความเจ็บปวด ขายหน้า ทำลายความไว้ใจ ปล้นความมั่นใจ
ทำให้ความฝันและความหวังของคุณพังทลาย
แต่ความจริงคือ...ชีวิตของคุณไม่ได้จบเพียงเพราะแฟนคุณนอกใจค่ะ
ชีวิตคุณยังมีอีกยาวไกล ยังมีสิ่งดีๆ คนดีๆ รอคุณอยู่อีกเยอะมาก
ถ้าคุณตัดสินใจเลือกรับแฟนกลับมาหรือตัดสินใจจากกันไปก็ตาม
ยาดีที่สุดที่คุณจะมอบให้ตัวเองได้คือพลังแห่งความรักจากตัวคุณเองและคนรอบ
ข้าง ให้เวลาตัวเองมากๆ ในการใคร่ครวญทบทวนชีวิต ไม่ต้องรีบ
แล้วเปิดรับมิตรที่สนับสนุนให้กำลังใจแก่คุณ
ซึ่งสำคัญมากสำหรับการเยียวยาแผลใจแล้วเริ่มต้นใหม่อย่างแข็งแรง
ฉันจำได้ดีว่าเพื่อนสาวของฉันหลายคนอยากเลิกกับแฟนนอกใจ
แต่เจอญาติพี่น้องและเพื่อนบางคนห้ามไว้ ญาติๆ
ให้เหตุผลจากมุมมองของคนหัวเก่าว่า “บ้านเราไม่เคยมีใครหย่าจากกัน
คนอื่นจะนินทาเอาได้” ส่วนเพื่อนๆ บอกจากมุมมองของความมั่นคงทางการเงินว่า
“ถ้าเขาดูแลส่งเสียเธอดี เธอจะไปเอาอะไรกับเขานักหนา
ปล่อยให้เขาหาเศษหาเลยเล็กๆ น้อยๆ บ้างเถอะ”
อ่านแล้วเหมือนโดนคนรักชกหน้าแล้วเจอครอบครัวผลักซ้ำ